
เรามาดูเนื้อหาบทความนี้กันนะครับ
เมื่อฮิญาบระรานวัด
เขียนโดย จอมพระ
เมื่อประเทศไทยที่กลายเป็นประเทศที่เงียบสงบด้วยข่าวสารที่จำเป็นต่อการมองไปข้างหน้าของประชาชนในประเทศ ข่าวที่ถูกจัดกรอบกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ชี้ทิศทางสังคมก่อให้เกิดความไม่ลงรอยระหว่างศาสนาที่เป็นกลยุทธถูกจัดวางให้เกิดขึ้นในภาวะวิกฤตของสังคม
การปฏิบัติศาสนกิจให้ถูกต้องตามหลักศาสนาต่างๆนั้นเป็นเรื่องที่สมควรที่ศาสนิกชนพึงกระทำ เช่นใช้ผ้าคลุมผมที่เรียกว่า Hijab (ฮิญาบ) ที่สุภาพสตรีชาวมุสลิมใช้คลุมผม ที่กลายเป็นประเด็นที่ถูกยกขึ้นมาจนทำให้มีการปลุกปั่นจนกระทั่งปั่นป่วนไปทั้งสังคม กลายเป็นประเด็นร้อนระดับชาติไปเลยเมื่อเกิดการนำเสนอความเห็นในเฟสบุ๊คอย่างกว้างขวาง เรื่องผ้าคลุมผมผืนนี้กลายเป็นเรื่องไม่ธรรมดาไปแล้ว
จากบทความ เรื่อง “เมื่อ**มหาเถร*เปิดศึกกับ**มุสลิม**
ที่มุ่งวิจารณ์ไปที่ มหาเถรสมาคม เพียงองค์กรเดียว “ตอนนี้มุสลิมไทยมีปัญหากับ “มหาเถระ"จริงๆไม่ได้มีกับชาวพุทธ” (ประโยคสำคัญของบทความ นี่)
ตามที่มหาเถรสมาคม มีมติไม่ให้เมื่อพระท่านได้มีมติไม่เห็นชอบให้ใช้ผ้าคลุมผมที่เป็นการปฏิบัติของศาสนาหนึ่งเข้ามาในพื้นที่ของอีกศาสนาหนึ่ง โดย มติของ ม.ส. ได้ชี้แจงไปตามพระธรรมวินัย ดังนี้ http://www.mahathera.org/detail.php?module=mati&id=255401021501&title=10
โดยส่วนหนึ่งมติของ ม.ส. ชี้แจงประเด็นสำคัญ
“เนื่องจากการอ้างสิทธิตามรัฐธรรมนูญนั้น จะต้องยึดถือการปฏิบัติตามหน้าที่ของคนไทยตามรัฐธรรมนูญด้วย โดยการปฏิบัติตามหลักศาสนา ลัทธิทางศาสนา และ ความเชื่อของตน แต่จะต้องไม่กระทบต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีงาม ตลอดถึงไม่กระทบสิทธิของผู้อื่นด้วย”
TheMuslimMafia : การที่มุสลิมอ้างสิทธิในการสวมฮิญาบนั้น เป็นการกระทำหน้าที่ของคนไทยตามรัฐธรรมนูญ เพราะฮิญาบนั้นไม่กระทบอันใดต่อความสงบเรียบร้อย(ยกเว้น ถ้าไม่ต้องการความสงบเรียบร้อย) ไม่มีใครเห็นฮิญาบแล้วเกิดอาการลมชัก เป็นไข้ ตัวสั่นอันใด และฮิญาบไม่ผิดศีลธรรมอันดีงามของศาสนาพุทธใดๆเลย ไม่มีแม้แต่ข้อเดียวในพระไตรปิฎก ที่ระบุว่า ฮิญาบ นั้นเป็น "บาป" "ผิดศีล" และฮิญาบไม่ได้ไปกระทบสิทธิของใคร เมื่อมีนักเรียนสวมฮิญาบเข้าวัด ก็ไม่ได้ทำให้ที่ "ธรณีสงฆ์หดลง" แม้แต่น้อย ไม่ได้ทำให้พระเลิกทำวัตร จำศีล แต่การที่มาห้ามนักเรียนไม่ให้คลุมฮิญาบ นี่เป็นการ "อยุติธรรม" อย่างแท้จริง และกระทบ "สิทธิมนุษยชน" ที่มุสลิมไทยควรได้รับ
การนำเสนอว่าอิสลามเป็นปัญหากับ ม.ส. เท่านั้น ถูกจงใจลดมุมมองให้เป็นเป้าโจมตีที่แคบลงเพื่อตัดพระคุณเจ้าทั้งหลายให้ถูกโดดเดี่ยวออกจากพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ให้ตกอยู่ท่ามกลางฝูงฉลามเขี้ยวยาว ที่เฝ้าซุ่มรอเวลาออกมาขย้ำพร้อมๆ กัน( TheMuslimMafia : เจ้าของบทความไม่มองเราเป็นคนไปซะแล้ว นี่หรือ "จอมพระ" ) หลังจากใช้เวลาช่วงหนึ่งสร้างเรื่องการใช้ผ้าคลุมผมสำหรับนักเรียนในโรงเรียนฯ กลายเป็นประเด็นที่พระท่านต้องออกมาตัดสินความที่เกิดในพื้นที่ธรณีสงฆ์ ซึ่งเป็นเกมส์บังคับเปิดโอกาสให้ปลุกกระแสความขัดแย้งในวาระที่บ้านเมืองกำลังอยู่ในความสับสน ทำไมไม่เกิดก่อน ทำไมต้องเกิดขึ้นในเวลานี้
TheMuslimMafia : เมื่อมีความอยุติธรรมเกิดขึ้น มันก็คงยากที่จะบอกจริงๆว่า จะมีคนมาต่อสู้กับความอยุติธรรมนี้เมื่อไหร่เวลาใด ในเมื่อพระทำตัวเหนือกฏหมาย เหนือพระไตรปิฎก แล้วจะให้เราได้แต่มองดูความอยุติธรรมแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อสังเวยกับกิเลส ตัญหา การเมือง ของคนกลุ่มหนึ่งได้อย่างไร เมื่อพวกท่านเรียกการเรียกร้องสิทธิ เรียกร้องความเป็นธรรมนี้ว่าเป็นการปลุกกระแสความขัดแย้ง ท่านก็จงเรียกไปเถิด ถ้ามันทำให้ริมฝีปากของท่าน เรียกขาน "การเรียกร้องสู่ความยุติธรรม" ได้ง่ายขึ้น
ในฐานะที่เป็นชาวพุทธคนหนึ่งซึ่งมองเห็นว่า เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องของอิสลามกับ ม.ส. เท่านั้น แต่เป็นเรื่องของคนอื่นๆ ในสังคมนี้ด้วย ดังนั้นพุทธศาสนิกชนทั้งหลายจึงควรสอดส่องและติดตามเรื่องเหล่านี้ให้ใกล้ชิด
TheMuslimMafia : เริ่มปลุกปั่นแล้วครับ ผมสงสัยจังทำไมเรื่องที่ไม่ผิดศีลธรรม พวกคุณถึงต่อต้านจัง ผมจึงไม่ค่อยแปลกใจที่มี พระตุ๊ด เณรแต๋ว เต็มไปหมด ผมไม่ได้หยาบคายนะ แต่ผมไปเห็นมาจริงๆ
ศาสนาพุทธกำหนดไว้ว่า ศาสนาฯนั้นจะดำรงอยู่ได้ต้องอาศัย พุทธบริษัท 4 คือภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก และอุบาสิกา พุทธบริษัททั้งหลายบำรุงและปกป้องและสืบต่อพระพุทธศาสนา พระสงฆ์ท่านรับหน้าที่สืบต่อพระพุทธศาสนาแล้ว หน้าที่ปกป้องและบำรุงพระพุทธศาสนาจึงต้องเป็นของเหล่าพุทธบริษัทที่เหลือ
TheMuslimMafia : ศาสนาพุทธจะเสื่อมลง ก็มาจากปัจจัยเหล่านี้ 1.ภิกษุทุศีล 2.ภิกษุณีกลับมา(ทั้งๆที่ไม่ถูกต้องตามพุทธานุญาติ) 3.อุบาสกลืมธรรม 4.อุบาสิกาหนีธรรม
ตัวอย่างการปฏิบัติตนให้คงความสันติและไมตรีระหว่างศาสนาเมื่อครั้ง สมเด็จพระราชินีนาถแห่งอังกฤษทรงเยือนการประเทศตุรกีอย่างเป็นทางการท่านก็ใช้คลุมผ้าคลุมผมเมื่อเสด็จไปเยือนมัสยิดหนึ่งในประเทศตุรกีจนชาวมุสลิมนำไป เป็นข่าวในเวบไซด์ของชาวมุสลิมอย่างเป็นที่น่าประทับใจ
นี่คือการแสดงของอารยชน ที่ปฏิบัติตัวอยู่ในอารยธรรมระหว่างศาสนาร่วมโลกที่ยืดหยุ่น เมื่อเป็นแขกมาเยือนในฐานะมิตรนี่จึงแสดงความเป็นมิตรเพื่อเป็นเกียรติแก่มิตรที่เป็นเจ้าบ้าน โดยความสันตินี้ได้กระทำโดยไม่ต้องประกาศ ดังเช่นสุภาษิตไทยว่า “เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม” ต่างจากความสันติขององค์กรที่ประกาศออกมาชัดเจนว่าดำเนินการไปเพื่อความสันติ แต่แนวทางการดำเนินการนั้นแสวงหาความแตกแยกให้แก่สังคมที่เคยอยู่กันมาอย่างสงบสุข
TheMuslimMafia : พระราชิณีนาถแห่งอังกฤษ เป็นคริสตชน การคลุมผมของพระราชินีนาถ เป็นการปฏิบัติตนตามหลักการศาสนาคริสต์ ดู พระธรรม 1 โครินธ์ ฉบับที่ 11 วรรคที่ 5-10
และลองมาดูพระไทยในต่างแดนกัน
![]() |
พระสงฆ์ห่มจีวรใน Bodh Gaya ประเทศอินเดีย หรือ ฮินดูสถาน |
![]() |
พระสงฆ์ห่มจีวรในวัดป่า ณ สวิตเซอร์แลนด์ แดนคริสต์ |
![]() |
แม้แต่ในประเทศมุสลิมอย่างอินโดนีเซีย พระสงฆ์ก็สามารถห่มจีวรได้ |
จึงเป็นที่หน้าสงสัยจริงๆว่า ที่คุณ จอมพระ บอกว่า "เข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม" นั้นแท้จริงเป็นเช่นใดกัน กรณีฮิญาบท่านเรียกความแตกแยก แล้วกรณีนี้ท่านกับเรียกทำตามหลักการศาสนา สองมาตราฐานจริงๆเลยนะครับ ท่านอ้างความเป็นอารยชน แต่ท่านเองขาดความมีอารยะธรรมนะคุณจอมพระ
การเรียกร้องขององค์กรมุสลิมเพื่อสันติที่สามารถสร้างประเด็นขัดแย้งขึ้นจนกลายเป็นปัญหากับสังคมในครั้งนี้เป็นกระบวนการที่เป็นปัญหาที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับการปกครองของหลายรัฐบาลในโลกนี้ไปเสียแล้ว
" ผ้าสามเหลี่ยมผืนเดียวสามารถสร้างความหวาดเสียวไปทั้งโลก"
TheMuslimMafia : ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ผ้า แต่อยู่ที่ใจคน ไปกลัวแค่ผ้าผืนเดียว อคติแท้ๆ
![]() |
ทำไม บาทหลวงเข้าได้ แต่ฮิญาบเข้าไม่ได้ |
ปริศนาธรรม ปุจฉา? : ผ้าคลุมศีรษะนั้นหรือพึงรังแก...
วิสัชนา : ผ้ามืดคลุมใจต่างหาก รังแกคน...
ยายคลุมเพราะว่ามันอินเทรน์อ่ะหลาน
ดูเรียบร้อยและสุภาพด้วย นี่ขนาดยายเป็นชาวพุทธ มาแสวงบุญที่เมืองลาดัค อินเดีย นะ ยายห่วงในความปลอดภัยของหลานๆ เพราะสาวๆสมัยนี้นุ่งสั้น รัดรูป เดินเข้าวัดกันแล้ว ยายเป็นห่วงพระจริงๆ กลัวตบะแตก! เห้อ...ชุดเรียบร้อยๆ น่ารักๆ ทำไมไม่ชอบ
สาดุ๊...ขอให้ น้องได้คลุมฮิญาบเข้าโรงเรียนวัดหนองจอกเถิ๊ดดด ยายคลุมศีรษะเข้าวัดมาตั้งหลายวัด ถ้ายายไปวัดหนองจอก คงโดนจับถอดแน่เลย สงสัยยายต้องนุ่งสั้น รัดรูปเข้าไป โอ๊ย อย่านะ...ยายกลัววว

ทำไมหนู...ไม่ได้คลุมฮิญาบไป
โรงเรียนมัธยมวัดหนองจอก
คนใจร้าย...รังแกได้แม้แต่เด็กผู้หญิง เอาสิทธิในการคลุมฮิญาบไปโรงเรียนของหนู
คืนมา...คนใจร้าย
นิธิ เอียวศรีวงศ์
ตอบลบฮิญาบที่วัดหนองจอก
ผมออกจะสะเทือนใจกับมติของมหาเถรสมาคมเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ห้ามมิให้นักเรียนวัดหนองจอกนุ่งฮิญาบ ไม่ใช่เพราะผมเป็นมุสลิม แต่เพราะผมเป็นชาวพุทธนี่แหละครับ ทำให้ผมคิดว่าผมคงนับถือพุทธคนละพุทธกับมหาเถร นั่นก็ยังไม่สู้เป็นไรเท่าไหร่นัก เพราะคงมีคนนับถือพุทธคนละพุทธกับผมอีกมาก และเราก็ควรเคารพความแตกต่างทางความเชื่อทั้งนั้น
แต่มหาเถรมีอำนาจในมือ ทำให้มหาเถรดูจะสถาปนาตนเองเป็นตัวแทนชาวพุทธทั้งประเทศไทย ทัศนะที่คับแคบอย่างนี้จึงอาจถูกเข้าใจไปได้ว่า คือทัศนะของชาวพุทธไทยทุกคน
ผมจึงขอประกาศไว้ก่อนเลยว่า มหาเถรไม่ใช่ตัวแทนของผม และคงไม่ใช่ของชาวพุทธอีกหลายคนในเมืองไทย
มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 31 ฉบับที่ 1597
หวยก็เหมือนความรักเจ็บแต่ไม่จำ ufabet
ตอบลบอยากให้คนไทยทุกคนรักกันไม่ว่าจะศาสนาใดก็ตามเหมือนที่เรารักคุณ joker123
ตอบลบ