http://surasiha.blogspot.com/2011/06/httpnews.html
ซึ่งทางทีมงานไปพบลิงค์เว็ปนี้ จากศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย
เดลี่เมล์รายงานวันที่ 31 พ.ค. ว่าสาวน้อยชะตาขาดมีชื่อว่า คัตยา โคเร็น วัย 19 ปี ในยูเครนถูกรุมปาหินดับอนาถ ซึ่งเป็นการรับโทษประหารชีวิตตามกฎหมายอิสลาม หลังจากไปประกวดนางงามในเมืองซึ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับกลุ่มมุสลิมสาย เคร่งในหมู่บ้าน
คัตยา โคเร็น ได้ หายตัวไปจากบ้านในแคว้น ครีเมีย หนึ่งสัปดาห์ต่อมามีคนพบร่างที่บอบช้ำถูกฝังอยู่ในป่าใกล้บ้าน โดยตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 3 คน ซึ่งบอกว่าหญิงสาวสมควรตายแล้วตามกฎหมายอิสลาม นายบีฮัล กาเซียฟ อายุ 16 ปี หนึ่งใน ผู้ต้องหาให้การว่า คัตยาละเมิดกฎหมายอิสลาม และไม่เสียใจที่คัตยาตาย
ทั้ง นี้การปาหินเป็นโทษประหารที่ชาวมุสลิมยังเห็นไม่ตรงกันกัน มีทั้งกลุ่มสนับสนุนและคัดค้าน แต่หลายประเทศทั้งอิหร่าน ไนจีเรีย และปากีสถานยังใช้อยู่ ซึ่งอิหร่านมีโทษปาหินสำหรับคดีชู้สาวเท่านั้น โดยมีผู้หญิงอย่างน้อย 10 คน และผู้ชาย 4 คน ที่จะต้องรับโทษภายในสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ตามประชาคมโลกเริ่มให้ความสนใจและต่อต้านโทษประหารด้วยการปาหิน
แต่ความจริงแล้ว เรื่องนี้เป็นดังนี้ครับ
สำนักข่าวมุสลิมไทย
สื่อเทศออกมายอมรับ นั่งเทียนเขียนข่าว กรณีสาวมุสลิมโดนขว้างหินจนตาย
(ข่าวที่เคยนำเสนอก่อนหน้านี้)
สื่อออกมาแก้ข่าว และแสดงความไม่แน่ใจต่อกรณี คัตญ่า โคเรน สาวมุสลิมชาวยูเครน ซึ่ง ได้เข้าร่วมประกวดความงาม และถูกสังหารชีวิต ซึ่งสื่อรีบออกข่าวว่ามีผู้ไม่พอใจที่เธอฝ่าฝืนหลักการอิสลามจนนำไปสู่การถูกสังหารด้วยก้อนหิน
เซอร์เจีย เรซนิคอฟ ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องในการสอบสวน ออกมากล่าวกับสื่อเทเลกร๊าฟว่า ผู้ สังหารเธอเป็นเพื่อนนักเรียนด้วยกัน และยังไม่พบเหตุจูงใจที่เกี่ยวกับศาสนา หรือความขัดแย้งระหว่างชนกลุ่มน้อย และในพื้นที่ระหว่างไครเมียกับยูเครน ไม่เคยมีเหตุขัดแย้งจากเรื่องดังกล่าวตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน
จากข้อสันนิษฐานใหม่ ผู้สังหารคัตญ่าเป็นเพื่อนนักเรียนที่อาจหลงรักเธอ และถูกเธอแสดงความไม่สนใจ บิฮาล กาซีฟ ผู้ต้องสงสัยที่สารภาพว่าเป็นผู้สังหารเธอเพราะต้องการลงโทษ มีประวัติว่าเป็นคนไม่เต็มเต็ง และขณะนี้ตำรวจกำลังดำเนินการตรวจร่างกายของกาซีฟอย่างละเอียด
ที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวไม่มีความขัดแย้งในเรื่องการลงโทษตามแบบชาริอะฮฺ
อนึ่งมีข่าวจากเว็ปไซต์ www.sundayszaman.com ซึ่งออกมาโต้สื่อเดลี่ เมล์ ของอังกฤษ ว่าด่วนลงข่าวโดยยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่แน่ชัด และว่าสื่อตะวันตกมีอคติต่ออิสลาม
ซึ่งทางการยูเครนกล่าวกับสำนักข่าว Cihan ว่า รายงานที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ และเว็ปไซต์ข่าวหลายแห่งเป็นเรื่องที่กุขึ้น และว่าหญิงที่ถูกสังหารไม่ได้เป็นมุสลิม แต่เป็นชาวคริสต์เชื้อสายรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ทางการไครเมียกล่าวว่า คำให้การของผู้ต้องสงสัยยังมีความสับสน โดยในบันทึกคำให้การที่ทำต่อหน้าครู และทนายความ กาซีฟกล่าวว่า เขาช่วยคัตญ่าหาสิ่งของบางอย่างในป่า และได้สังหารเธอที่นั่น แต่ภายหลังกาซีฟได้ปฏิเสธคำให้การดังกล่าว
มุสตาฟา เซมิโลกลู ประธานมัจลิส ประชาชนชาวตาต้าร์ไครเมียน (Mejlis of the Crimean Tatar People) ออกมากล่าวว่า บิลาล กาซิเยฟ ผู้ต้องสงสัยสังหารคัตญ่าเป็นชาวไครเมียเชื้อสายตาต้าร์ เขาถูกตำรวจกดดันให้สารภาพว่าเป็นผู้สังหาร และสื่อบิดเบือนแรงจูงใจในการสังหารให้เกี่ยวข้องกับเรื่องของศาสนา เขาย้ำว่าคัตญ่าไม่ได้เป็นมุสลิม และรายงานข่าวทางสื่อเป็นเรื่องที่กุขึ้นทั้งสิ้น - www.muslimthai.com

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น