จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554

จาก เมื่อฮิญาบระรานวัด สู่ เมื่อวัดระรานฮิญาบ

          กรณีฮิญาบวัดหนองจอกยังไม่หาย ความอคติก็เข้ามาเติมเชื้อไฟ ให้สังคมเกิดความแตกแยก เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ตามการเมืองที่กำลังน่าลุ้นอยู่ในขณะนี้ จากเว็ปที่ชอบสร้างความอคติ เติมเชื้อไฟแห่งมิจฉาทิฐิ เจ้าเก่า เจ้าเดิม เจ้าประจำ นาย ภูวดล แดนไทย และพรรคพวกตามรูป 


ที่มา: http://surasiha.blogspot.com/2011/03/hijab-httpwww.html


           เรามาดูเนื้อหาบทความนี้กันนะครับ


เมื่อฮิญาบระรานวัด

เขียนโดย  จอมพระ

เมื่อประเทศไทยที่กลายเป็นประเทศที่เงียบสงบด้วยข่าวสารที่จำเป็นต่อการมองไปข้างหน้าของประชาชนในประเทศ ข่าวที่ถูกจัดกรอบกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ชี้ทิศทางสังคมก่อให้เกิดความไม่ลงรอยระหว่างศาสนาที่เป็นกลยุทธถูกจัดวางให้เกิดขึ้นในภาวะวิกฤตของสังคม

การปฏิบัติศาสนกิจให้ถูกต้องตามหลักศาสนาต่างๆนั้นเป็นเรื่องที่สมควรที่ศาสนิกชนพึงกระทำ  เช่นใช้ผ้าคลุมผมที่เรียกว่า Hijab (ฮิญาบ) ที่สุภาพสตรีชาวมุสลิมใช้คลุมผม ที่กลายเป็นประเด็นที่ถูกยกขึ้นมาจนทำให้มีการปลุกปั่นจนกระทั่งปั่นป่วนไปทั้งสังคม กลายเป็นประเด็นร้อนระดับชาติไปเลยเมื่อเกิดการนำเสนอความเห็นในเฟสบุ๊คอย่างกว้างขวาง เรื่องผ้าคลุมผมผืนนี้กลายเป็นเรื่องไม่ธรรมดาไปแล้ว
จากบทความ เรื่อง เมื่อ**มหาเถร*เปิดศึกกับ**มุสลิม**
ที่มุ่งวิจารณ์ไปที่ มหาเถรสมาคม เพียงองค์กรเดียว ตอนนี้มุสลิมไทยมีปัญหากับ มหาเถระ"จริงๆไม่ได้มีกับชาวพุทธ” (ประโยคสำคัญของบทความ นี่)

ตามที่มหาเถรสมาคม มีมติไม่ให้เมื่อพระท่านได้มีมติไม่เห็นชอบให้ใช้ผ้าคลุมผมที่เป็นการปฏิบัติของศาสนาหนึ่งเข้ามาในพื้นที่ของอีกศาสนาหนึ่ง โดย มติของ ม.ส. ได้ชี้แจงไปตามพระธรรมวินัย ดังนี้ http://www.mahathera.org/detail.php?module=mati&id=255401021501&title=10

โดยส่วนหนึ่งมติของ ม.ส. ชี้แจงประเด็นสำคัญ
เนื่องจากการอ้างสิทธิตามรัฐธรรมนูญนั้น จะต้องยึดถือการปฏิบัติตามหน้าที่ของคนไทยตามรัฐธรรมนูญด้วย โดยการปฏิบัติตามหลักศาสนา ลัทธิทางศาสนา และ ความเชื่อของตน แต่จะต้องไม่กระทบต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีงาม ตลอดถึงไม่กระทบสิทธิของผู้อื่นด้วย

TheMuslimMafia : การที่มุสลิมอ้างสิทธิในการสวมฮิญาบนั้น เป็นการกระทำหน้าที่ของคนไทยตามรัฐธรรมนูญ เพราะฮิญาบนั้นไม่กระทบอันใดต่อความสงบเรียบร้อย(ยกเว้น ถ้าไม่ต้องการความสงบเรียบร้อย) ไม่มีใครเห็นฮิญาบแล้วเกิดอาการลมชัก เป็นไข้ ตัวสั่นอันใด และฮิญาบไม่ผิดศีลธรรมอันดีงามของศาสนาพุทธใดๆเลย ไม่มีแม้แต่ข้อเดียวในพระไตรปิฎก ที่ระบุว่า ฮิญาบ นั้นเป็น "บาป"  "ผิดศีล" และฮิญาบไม่ได้ไปกระทบสิทธิของใคร เมื่อมีนักเรียนสวมฮิญาบเข้าวัด ก็ไม่ได้ทำให้ที่ "ธรณีสงฆ์หดลง" แม้แต่น้อย ไม่ได้ทำให้พระเลิกทำวัตร จำศีล แต่การที่มาห้ามนักเรียนไม่ให้คลุมฮิญาบ นี่เป็นการ "อยุติธรรม" อย่างแท้จริง และกระทบ "สิทธิมนุษยชน" ที่มุสลิมไทยควรได้รับ

การนำเสนอว่าอิสลามเป็นปัญหากับ ม.ส. เท่านั้น ถูกจงใจลดมุมมองให้เป็นเป้าโจมตีที่แคบลงเพื่อตัดพระคุณเจ้าทั้งหลายให้ถูกโดดเดี่ยวออกจากพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ให้ตกอยู่ท่ามกลางฝูงฉลามเขี้ยวยาว ที่เฝ้าซุ่มรอเวลาออกมาขย้ำพร้อมๆ กัน( TheMuslimMafia : เจ้าของบทความไม่มองเราเป็นคนไปซะแล้ว นี่หรือ "จอมพระ" ) หลังจากใช้เวลาช่วงหนึ่งสร้างเรื่องการใช้ผ้าคลุมผมสำหรับนักเรียนในโรงเรียนฯ กลายเป็นประเด็นที่พระท่านต้องออกมาตัดสินความที่เกิดในพื้นที่ธรณีสงฆ์ ซึ่งเป็นเกมส์บังคับเปิดโอกาสให้ปลุกกระแสความขัดแย้งในวาระที่บ้านเมืองกำลังอยู่ในความสับสน ทำไมไม่เกิดก่อน ทำไมต้องเกิดขึ้นในเวลานี้

TheMuslimMafia : เมื่อมีความอยุติธรรมเกิดขึ้น มันก็คงยากที่จะบอกจริงๆว่า จะมีคนมาต่อสู้กับความอยุติธรรมนี้เมื่อไหร่เวลาใด ในเมื่อพระทำตัวเหนือกฏหมาย เหนือพระไตรปิฎก แล้วจะให้เราได้แต่มองดูความอยุติธรรมแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อสังเวยกับกิเลส ตัญหา การเมือง ของคนกลุ่มหนึ่งได้อย่างไร เมื่อพวกท่านเรียกการเรียกร้องสิทธิ เรียกร้องความเป็นธรรมนี้ว่าเป็นการปลุกกระแสความขัดแย้ง ท่านก็จงเรียกไปเถิด ถ้ามันทำให้ริมฝีปากของท่าน เรียกขาน "การเรียกร้องสู่ความยุติธรรม" ได้ง่ายขึ้น

ในฐานะที่เป็นชาวพุทธคนหนึ่งซึ่งมองเห็นว่า เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องของอิสลามกับ ม.ส. เท่านั้น แต่เป็นเรื่องของคนอื่นๆ ในสังคมนี้ด้วย ดังนั้นพุทธศาสนิกชนทั้งหลายจึงควรสอดส่องและติดตามเรื่องเหล่านี้ให้ใกล้ชิด 

TheMuslimMafia : เริ่มปลุกปั่นแล้วครับ ผมสงสัยจังทำไมเรื่องที่ไม่ผิดศีลธรรม พวกคุณถึงต่อต้านจัง ผมจึงไม่ค่อยแปลกใจที่มี พระตุ๊ด เณรแต๋ว เต็มไปหมด ผมไม่ได้หยาบคายนะ แต่ผมไปเห็นมาจริงๆ

ศาสนาพุทธกำหนดไว้ว่า ศาสนาฯนั้นจะดำรงอยู่ได้ต้องอาศัย พุทธบริษัท 4 คือภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก และอุบาสิกา พุทธบริษัททั้งหลายบำรุงและปกป้องและสืบต่อพระพุทธศาสนา พระสงฆ์ท่านรับหน้าที่สืบต่อพระพุทธศาสนาแล้ว หน้าที่ปกป้องและบำรุงพระพุทธศาสนาจึงต้องเป็นของเหล่าพุทธบริษัทที่เหลือ

TheMuslimMafia : ศาสนาพุทธจะเสื่อมลง ก็มาจากปัจจัยเหล่านี้ 1.ภิกษุทุศีล 2.ภิกษุณีกลับมา(ทั้งๆที่ไม่ถูกต้องตามพุทธานุญาติ) 3.อุบาสกลืมธรรม 4.อุบาสิกาหนีธรรม

ตัวอย่างการปฏิบัติตนให้คงความสันติและไมตรีระหว่างศาสนาเมื่อครั้ง สมเด็จพระราชินีนาถแห่งอังกฤษทรงเยือนการประเทศตุรกีอย่างเป็นทางการท่านก็ใช้คลุมผ้าคลุมผมเมื่อเสด็จไปเยือนมัสยิดหนึ่งในประเทศตุรกีจนชาวมุสลิมนำไป เป็นข่าวในเวบไซด์ของชาวมุสลิมอย่างเป็นที่น่าประทับใจ

นี่คือการแสดงของอารยชน ที่ปฏิบัติตัวอยู่ในอารยธรรมระหว่างศาสนาร่วมโลกที่ยืดหยุ่น เมื่อเป็นแขกมาเยือนในฐานะมิตรนี่จึงแสดงความเป็นมิตรเพื่อเป็นเกียรติแก่มิตรที่เป็นเจ้าบ้าน  โดยความสันตินี้ได้กระทำโดยไม่ต้องประกาศ ดังเช่นสุภาษิตไทยว่า เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม” ต่างจากความสันติขององค์กรที่ประกาศออกมาชัดเจนว่าดำเนินการไปเพื่อความสันติ แต่แนวทางการดำเนินการนั้นแสวงหาความแตกแยกให้แก่สังคมที่เคยอยู่กันมาอย่างสงบสุข

TheMuslimMafia : พระราชิณีนาถแห่งอังกฤษ เป็นคริสตชน การคลุมผมของพระราชินีนาถ เป็นการปฏิบัติตนตามหลักการศาสนาคริสต์ ดู พระธรรม 1 โครินธ์  ฉบับที่ 11 วรรคที่ 5-10 

และลองมาดูพระไทยในต่างแดนกัน 

พระสงฆ์ห่มจีวรใน Bodh Gaya ประเทศอินเดีย หรือ ฮินดูสถาน

พระสงฆ์ห่มจีวรในวัดป่า ณ สวิตเซอร์แลนด์ แดนคริสต์

แม้แต่ในประเทศมุสลิมอย่างอินโดนีเซีย พระสงฆ์ก็สามารถห่มจีวรได้
จึงเป็นที่หน้าสงสัยจริงๆว่า ที่คุณ จอมพระ บอกว่า "เข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม" นั้นแท้จริงเป็นเช่นใดกัน กรณีฮิญาบท่านเรียกความแตกแยก แล้วกรณีนี้ท่านกับเรียกทำตามหลักการศาสนา สองมาตราฐานจริงๆเลยนะครับ ท่านอ้างความเป็นอารยชน แต่ท่านเองขาดความมีอารยะธรรมนะคุณจอมพระ 

การเรียกร้องขององค์กรมุสลิมเพื่อสันติที่สามารถสร้างประเด็นขัดแย้งขึ้นจนกลายเป็นปัญหากับสังคมในครั้งนี้เป็นกระบวนการที่เป็นปัญหาที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับการปกครองของหลายรัฐบาลในโลกนี้ไปเสียแล้ว
 " ผ้าสามเหลี่ยมผืนเดียวสามารถสร้างความหวาดเสียวไปทั้งโลก"

TheMuslimMafia : ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ผ้า แต่อยู่ที่ใจคน ไปกลัวแค่ผ้าผืนเดียว  อคติแท้ๆ



ทำไม บาทหลวงเข้าได้ แต่ฮิญาบเข้าไม่ได้
       ศาสนาพุทธสอน ให้ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ แต่นี่คำสอนแต่ใดกัน ถึงระบุห้าม"ฮิญาบ" หรือเพียงเพราะเราเป็นมุสลิมที่ยึดมั่นในหลักการ


ปริศนาธรรม   ปุจฉา?  : ผ้าคลุมศีรษะนั้นหรือพึงรังแก...
                      วิสัชนา  : ผ้ามืดคลุมใจต่างหาก รังแกคน...


ยายคลุมเพราะว่ามันอินเทรน์อ่ะหลาน 
ดูเรียบร้อยและสุภาพด้วย นี่ขนาดยายเป็นชาวพุทธ มาแสวงบุญที่เมืองลาดัค อินเดีย นะ ยายห่วงในความปลอดภัยของหลานๆ เพราะสาวๆสมัยนี้นุ่งสั้น รัดรูป เดินเข้าวัดกันแล้ว ยายเป็นห่วงพระจริงๆ กลัวตบะแตก! เห้อ...ชุดเรียบร้อยๆ น่ารักๆ ทำไมไม่ชอบ






สาดุ๊...ขอให้ น้องได้คลุมฮิญาบเข้าโรงเรียนวัดหนองจอกเถิ๊ดดด ยายคลุมศีรษะเข้าวัดมาตั้งหลายวัด ถ้ายายไปวัดหนองจอก คงโดนจับถอดแน่เลย สงสัยยายต้องนุ่งสั้น รัดรูปเข้าไป โอ๊ย อย่านะ...ยายกลัววว



ทำไมหนู...ไม่ได้คลุมฮิญาบไป
โรงเรียนมัธยมวัดหนองจอก 
คนใจร้าย...รังแกได้แม้แต่เด็กผู้หญิง เอาสิทธิในการคลุมฮิญาบไปโรงเรียนของหนู
คืนมา...คนใจร้าย







วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สังคมสองมาตราฐาน กรณี ดีเจ เอฟ กับ คนเสียสติ

          จากกรณี ดีเจ เอฟ ผู้ดังกระฉ่อนเพียงชั่วข้ามคืน ทำให้เกิดกระแสวิพากษณ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย โดยเฉพาะในสังคมไซเบอร์บ้านเรา เนื่องด้วยการกระทำอันหยาบช้า จนยากที่จะเชื่อว่า เป็นดีเจจากคลื่นวิทยุ  FM 104.25 MHz คลื่นวิทยุศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย(เจ้าเก่า!) เป็นที่น่าแปลกใจ และข้องใจในกระบวนการทำงานของคลื่นวิทยุนี้มากว่า ปล่อยให้มีเรื่องราวแบบนี้ได้อย่างไร การจะอ้างว่าไม่มีใครรู้เห็น ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะดีเจ ท่านนี้คงไม่ได้จัดรายการคนเดียวแน่ๆ แต่ขอพักประเด็นนี้ไว้ก่อนนะครับ


ถอดเทป คำต่อคำ ดีเจเอฟ - ตามคำเรียกร้องมวลชน
http://www.muslimthai.com/main/1428/content.php?page=content&category=92&id=18298
          
               ประเด็นที่ข้าพเจ้าจะออกมาเล่าขานในวันนี้ เป็นประเด็นเกี่ยวกับวลียอดฮิต "สองมาตราฐาน" เพราะเนื่องจากการที่ข้าพเจ้าออกไปตระเวนท่องเที่ยวไปในโลกไซเบอร์ ก็ได้พบข้อความแบบนี้






           
        และก็ยังพบข้อความทำนองเดียวกันในบอร์ดต่างๆ ทำให้ข้าพเจ้ามานั่งคิดๆดูว่า ณ ขณะ นี้ดีเจ เอฟก็อยู่ดี ยังไม่ได้เป็นอะไร แค่ถูกขู่ กับการกระทำอันหยาบช้า(มากๆ)แบบนี้ 
        หรือเพียงเพราะว่าเราคือมุสลิม พวกท่านจึ่งไม่รักพวกเรา ไม่ปกป้องพวกเรา ไม่มองว่าพวกเราเป็นคนไทย ไม่มองว่าบรรพบุรุษของเราจับดาบปกป้องชาติมาช้านาน นานกว่าชาวจีนในเยาวราชเสียอีก พวกท่านสามารถที่จะด่าทอ ใส่ร้ายได้ตามใจชอบ ออกมาโจมตีๆ และก็ขอโทษๆ ให้เรื่องมันจบๆไป แต่เพียงแค่มุสลิม Upload คลิปลง youtube.com ได้เกิน 15 นาที พวกท่านก็เอามาพูดเป็นประเด็นโจมตีอิสลามได้


             แต่เราลองมาดูเหตุการณ์นี้กัน
ทุบพระพรหมเอราวัณพินาศ

        เมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ (21 มี.ค.) พ.ต.ต.ธนิต รตโอภาส พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.ลุมพินี รับแจ้งมีชายคลุ้มคลั่ง บุกเข้าไปทุบ ทำลายองค์ท้าวมหาพรหม ซึ่งตั้งอยู่ภายใน บริเวณโรงแรมเอราวัณ แบงคอก บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ถนนสุขุมวิทตัดราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร (กทม.) หลังก่อเหตุชายคนดังกล่าว ถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ ถึงแก่ความตาย จึงรุดไปตรวจสอบ
         เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุต้องพบกับภาพสลดใจ เมื่อองค์ท้าวมหาพรหมที่เคารพสักการะ ของชาวไทยและชาวต่างประเทศ ถูกทุบทำลายแตกยับเหลือเพียงส่วนล่าง ขององค์ที่ติดกับฐาน ส่วนบนตั้งแต่เอวขึ้นมาถูกทุบทำลาย แตกกระจายตกเกลื่อนพื้น ส่วนผู้ที่ทุบทำลายองค์ท้าวมหาพรหม ถูกกลุ่มประชาชนรุมทำร้ายจนเสียชีวิตเป็นศพ อยู่บนฟุตปาทหน้าโรงแรมเอราวัณ แบงคอก ด้านถนนสุขุมวิท เป็นชายอายุประมาณ 30 ปี ในสภาพนอนหงายสวมเสื้อยืดแขนสั้นคอโปโลสีขาว กางเกงขายาวสีกากี รองเท้าผ้าใบ ถูกทำร้ายทุบตีแทงน่วมไปทั้งตัว ใกล้ศพพบค้อนแบบมีที่ถอนตะปูด้ามยาวประมาณ 1 ฟุต ตกอยู่ 1 ด้าม ค้นในตัวผู้ตายพบเพียงบัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ
        สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นผู้ตายข้ามถนนมาจากฝั่งโรงพยาบาลตำรวจ ลักษณะคล้ายคนคลุ้มคลั่ง จากนั้นก็ปีนเข้าไปในบริเวณศาลท้าวมหาพรหม แล้วดึงค้อนที่พกติดตัวออกมาจากเอวกระหน่ำทุบองค์ท้าวมหาพรหม ท่ามกลางความตื่นตระหนกไม่คาดคิดของผู้พบเห็น หลังลงมือประมาณ 5 นาที องค์ท้าวมหาพรหมถูกทำลายแตกยับ ชายคนดังกล่าวก็ปีนหนีออกมา ขณะที่ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ประมาณ 20-30 คน ต่างกรูกันเข้าไปจับกุมและรุมประชาทัณฑ์ด้วยความโกรธแค้น ใช้ของแข็งที่หาได้รุมทุบตีแทงจนชายคนดังกล่าวเสียชีวิต ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนีไป        
  • ข่าวจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ปีที่ 57 ฉบับที่ 17591 วันอังคารที่ 21 มีนาคม 2549
 

               
              ผลปรากฏว่า เนื่องจากชาวพุทธกลุ่มนั้น ไปห้ามชายสติไม่ดี ไม่ให้ทุบพระเจ้าในศาสนาพราหมณ์มิได้ จึงเจ็บแค้นแทน (?) ที่ชายสติไม่ดีมาทำลายพระเจ้าในศาสนาพราหมณ์ จึงได้ทำการรุมประชาทัณฑ์จนเสียชีวิต
              ดีเจ เอฟ แค่โดนขู่ แต่นี่ไม่มีขู่ ฆ่ากันทันที และจับคนร้ายก็ไม่ได้ นี่ขนาดคนสติไม่ดี ยังไม่เว้น เพราะอะไร เพราะเขาไปดูหมิ่นพระเจ้าศาสนาพราหมณ์ที่ชาวพุทธกลุ่มนี้นับถือ กรณี ดีเจ เอฟ แค่โดนด่า โดนขู่ แต่ไม่ได้เป็นอะไรเลย พวกท่านก็ปกป้องคนผิดกัน ทำไมท่านไม่มาปกป้องชายเสียสติคนนี้บ้าง หรือเพียงเพราะว่าเขาเป็น "มุสลิม" สองมาตราฐานเห็นๆ


       ดีเจ เอฟ ดูหมิ่นพระเจ้าในศาสนาอิสลาม เลยโดนด่า โดนขู่ ไม่มีอันตราย 
       ชายสติไม่ดี ดูหมิ่นพระเจ้าศาสนาพราหมณ์ ชาวพุทธเลยรุมประชาทัณฑ์ตาย (?)    
    
              สองมาตราฐานไหมครับ!!!


ทิ้งท้าย คลิปดีเจเอฟ ยอมโผล่หัวออกทีวี มาขอโทษมุสลิม(แบบไม่จริงใจ)    
             สำนักข่าวมุสลิมไทย - คลิปดีเจเอฟ ยอมโผล่หัวออกทีวี ยันกลัวโดนทำร้าย ยอมโผล่ออกทางทีวี ทาง Thai PBS เมื่อคืนวันที่ 23 พ.ค. 2554 ขออภัย เผยเหตุที่ต้องออกมาเพราะ เป็นห่วงความปลอดภัยในชีวิต เจอขู่ทำร้าย ไม่ว่าตัวเอง ครอบครัว เพื่อนฝูง และคนรอบข้าง ย้ำสิ่งที่เกิดขึ้น ทำเพื่อปกป้องพุทธศาสนา เผยยินดีและพร้อมให้มีการฟ้องร้อง       


ดูแล้วนึกถึงคำพูดดีเจ เอฟเลยนะครับ

"ไอ้อัลกุรอานอาจจะสู้แกไม่ได้ แต่ถ้าต่อยกันอาจจะชนะ ต่อยกันดีกว่า ถ้าจะเถียงกันเรื่องนี้ ก็มาต่อยกันดีกว่านะครับ"

"คือมนุษย์เราทุกคนนะครับ ซึ่งยังไม่มีความตัดไปแล้วซึ่งกิเลส ยังไม่ตัดไปแล้วซึ่งความรู้สึกเยี่ยงปุถุชน ความกลัว ความหนี ความหลง ความอะไรมันมีอยู่ แต่ถามว่า ผมก็แค่เป็นคนๆหนึ่งนะฮะ ที่คิดเหมือนที่อีกหลายคน แต่เป็นแค่คนๆเดียว กับคนอีกไม่กี่คนเนี่ย ซึ่งกล้าออกมาพูด ก็ขอพูดตรงนี้ล่ะกันนะครับ ว่า คือ ไอ้ถ้าจะมาว่ากันด้วยหลักการนะ ก็ว่าได้นะฮะ คือจะมาเถียงกันด้วยหลักการ หึ หลักการคุณมีมายังไง คัมภีร์คุณอะไร ยั่งงู้น ยั่งงี้ เอามาตีมาเทียบกันสิ อะไรยั่งงี้ได้ แต่ถ้าจะชกกัน แต่ถ้ามีเรื่องกัน ก็ได้ ไม่กลัว นะฮะ ได้ทั้งสองอย่างนะครับ"


วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สังคมฮิญาบ กับความเป็นจริงที่คนไม่อยากจำ

          ฮิญาบ นั้นเป็นอาภรณ์อันล้ำค่า เพราะเป็นบัญญัติจากอัลลอฮฺ หลายคนคลุมเพราะที่บ้านสั่งมาบ้าง หรือไม่อยากแตกต่างจากเพื่อนบ้าง(ถ้าบ้านอยู่ในดินแดนมุสลิม) แม้อิมามหลายท่าน โต๊ะครู บาบอทั้งหลายจะพร่ำบอกนักบอกหนาว่า "คลุมฮิญาบนะไม่งั้นบาปนะ อัลลอฮฺไม่รักผู้ที่ฝ่าฝืนนะ" แต่มุสลิมะฮฺเราก็มีหลายคนไม่ยอมคลุมอยู่ดี ? (เป็นกำลังใจให้มุสลิมะฮฺทุกคนที่อยากคลุมฮิญาบนะครับ)

          วันนี้ข้าพเจ้าไม่ได้มาตำหนิใคร เพียงแต่วันนี้ข้าพเจ้าจะมานำเสนอข้อมูลของ "ฮิญาบ" ในมุมมองที่เป็นมากกว่า "ผ้าคลุมผม" แม้กระแสต่อต้านฮิญาบ จะมีมาสม่ำเสมอ ทั่วทุกสารทิศ ด้วยเหตุที่ว่า ฮิญาบนั้นเป็นการกดขี่ "สิทธิสตรี"

          แต่เรามาดูข้อมูลนี้กัน จากสถิติการข่มขืน(เกือบทั่วโลก ที่มา http://www.nationmaster.com


          
          เราจะสังเกตุเห็นได้ว่า พี่มะกันเรา แดนเสรี ติดอยู่อันดับที่ 9 ของประเทศที่มีสถิติการถูกข่มขืนมากที่สุด โดยมีจำนวนผู้ที่ถูกข่มขืน ประมาณ 0.3 คน ต่อประชากร 1000 คน ก็แสดงว่า ถ้ามีผู้หญิง 1,000,000 คน จะมีคนถูกข่มขืนถึง 300 คน (ประชากร อเมริกาทั้งหมด มี 281 ล้านคนจากการสำรวจในปี 2543 ลองไปคำนวนดูนะครับว่าทั้งหมดมีกี่คน) นี่ล่ะครับคือ สถิติของสังคมที่แทบจะไม่มี"ฮิญาบ" 

          แล้วสถิติ ของ สังคมฮิญาบ ล่ะ ? 


           จะสังเกตุเห็นได้ว่า จะมีเปอร์เซ็นต์ผู้ที่ถูกข่มขืน น้อยมากๆ (อย่าแปลกใจกับอันดับ เพราะเขาไม่ได้สำรวจทุกประเทศ) และจะเห็นได้ว่า ซาอุดิ อาระเบีย นั้น ที่โหล่สุด(ปกติคนที่ที่โหล่นั้นมักจะเสียใจ แต่งานนี้ ดีใจครับ ^___^) และก็มีประเทศมุสลิมอื่นๆ ที่แม้ฮิญาบจะกระท่อนกระแท่นไปบ้าง ตามมาติดๆเช่นเดียวกัน 
           
            แล้วไทยแลนด์ แดน "สไมล์" ล่ะ (ที่เด๋วนี้เริ่มมีการต่อต้านฮิญาบแล้ว)

            เท่าไหร่ไปคำนวนกันเอาเองนะครับ >_< และถ้าไม่สนับสนุน สังคมฮิญาบ ก็คาดว่าสถิตินี้ในไทยแลนด์ก็จะสูงขึ้นอย่างแน่นอน

            และทั้งหมดที่ผมนำเสนอนั้น น่าจะเป็นข้อมูลได้ดีนะครับ ว่า ฮิญาบสำคัญ แค่ไหนแบบประจักษ์ชัดเต็มๆตา และยังมีอีกหลายมุมมองของฮิญาบที่เรานั้นยังไม่รู้ และไม่ว่าผู้ที่อ้างว่า ฮิญาบไม่สำคัญ ล้าหลัง ไม่จำเป็น จะกีดกัน จะห้ามปรามฮิญาบมากเท่าไหร่ สถิติการถูกข่มขืน เหล่านี้ก็ไม่ลดลงนะครับ...เจ้านาย



เปลี่ยนเป็นแบบนี้ ดีกว่าไหม... (>_< อินเทรน์สุดๆ ใส่วันนี้ ได้ความดียันโลกหน้า)


สังคมฮิญาบ...ฉันนั้นขอเรียกร้อง...




วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ลองพิจารณาตอบคำถาม...??? : ถามทั้งคริสต์เตียน-มุสลิม

      อย่าประหลาดใจที่ผมจั่วหัวมาแบบนี้  เนื่องจากการที่ทางทีมงานได้ไปพบกับเว็ปไซด์โจมตีอิสลามขาประจำ ที่มีชื่อว่า "สู่พุทธศาสนา To be buddhist" ซึ่ง ทางทีมงานเคยพบกับเขาในแชตของ Zeeddhumma ซึ่งทางทีมงานได้ขอพูดคุย  แต่คุณTobebuddhist ได้ปฏิเสธ  พร้อมทั้งมีแต่คำสบถ เสียๆหายๆ ตามวิสัยของคนพาล  ที่ไม่ได้นำหลักการศาสนามาใช้






ซึ่งจากลิงค์ http://tobebuddhist.blogspot.com/2009/07/blog-post.html
คุณTobebuddhist ได้ตั้งคำถามถึง ชาวคริสต์และชาวมุสลิม ซึ่งในที่นี้ ผมจะขอตอบเฉพาะคำถามที่ถามมุสลิมนะครับ

คำถามมีดังนี้ครับ


ถามมุสลิม 

1. ใครเป็นผู้นำสงครามศาสนาจีฮัดเป็นคนแรก ในประวัติศาสตร์อิสลาม?

2. บทสวดในอัลกรุอ่าน ส่วนใหญ่เป็นบทสวดชื่นชมสรรเสริญ หรือเป็นบทสาปแช่งและข่มขู่?

3. ทำไมมุสลิมชีอะห์ กับ มุสลิมสุหนี่ ถึงขัดแย้งกัน ทั้งๆ ที่นับถืออัลเลาะด้วยกัน ทำไมต้องฆ่ากัน ทำสงครามกัน ทั้งๆที่ อาลีกับมูฮัมหมัดก็เป็นญาติๆกัน

4. ทำไมมุสลิมในตะวันออกกลาง มักมีเรื่องขัดแย้งหรือทำสงครามกับชาวยิว
(ก่อนจะตั้งประเทศอิสราเอลเสียอีก)

5. ทำไมมุสลิมที่อยู่ในอินเดีย ถึงมักมีเรื่องขัดแย้งกับชาวฮินดูในอินเดีย?

6. ทำไมมุสลิมชาวอุยกูร์ให้อุรุมชี ถึงมักมีเรื่องขัดแย้งกับชาวฮั่นในจีน?

7. ทำไมมุสลิมในยุโรปมักมีการก่อการร้ายและประท้วงก่อความไม่สงบในยุโรป?

8. ทำไมมุสลิมเชื้อสายมาลายูต้องก่อการร้ายในประเทศไทย?

9.ทำไมมุสลิมเชื้อสายมาลายูในมาเลเซีย ต้องมีปัญหาขัดแย้งกับชาวอินเดียและชาวจีน?

10. ผู้นำเครือข่าย อัลกออีดะห์ เครือข่ายก่อการร้ายใหญ่ที่สุด นับถือศาสนาอะไร?

11. ผู้นำกลุ่ม ฮิสบูลลอฮ์ ในเลบานอน นับถือศาสนาอะไร?

12. ผู้นำกลุ่ม ฮามาส ในฉนวนกาซ่า นับถือศาสนาอะไร?

13. ผู้นำกลุ่ม อาบูซายาฟ ในฟิลิปปินส์ นับถือศาสนาอะไร?

14. ผู้นำกลุ่ม มูจาฮิดีน ในปากีสถาน นับถือศาสนาอะไร?

15. ผู้นำกลุ่ม เจมา อิสลามมิยะ ในอินโดนิเซีย นับถือศาสนาอะไร?

16. ผู้นำกลุ่ม อาร์เคเค ในภาคใต้ของประเทศไทย นับถือศาสนาอะไร?



คำตอบ


1.นบีมุฮัมมัด(ศล.) แต่สาเหตุที่ต้องทำสงครามนั้น เนื่องมาจาก ถูกชาวอาหรับ จากเมืองมักกะฮฺ หมายที่จะมาทำลายอย่างสิ้นซาก จึงไม่สามารถที่จะเลี่ยงการทำสงครามเพื่อที่จะป้องกันตัวเองได้ ถ้าท่านและบรรดามุสลิมในเวลานั้น ชอบทำสงคราม ก็คงมีสงครามไปแล้วตั้งแต่แรก คงไม่ต้องรอเวลาหรอกนะครับ แล้วเวลาเขมรยิงจรวดใส่ประเทศไทย ชาวพุทธทำยังไงกันครับ อยากทราบจัง ^___^


2.ในกุรอาน ระบุไว้ซึ่งคำสอนครับ เพื่อสร้างศีลธรรมอันดีแด่ผู้คน ส่วนที่มีข้อความที่ออกมาในทางข่มขู่นั้น ก็เพียงแค่บอกกับบรรดามนุษย์ว่า ทำดีไปสวรรค์ ทำไม่ดีก็ตกนรก คัมภีร์หลายศาสนาก็มีครับ เรื่องนรก-สวรรค์ แต่ถ้าวัดกันตามเนื้อหาจริงๆแล้ว กุรอานสอนในเรื่องของการศรัทธาและทำตามในสิ่งที่อัลลอฮฺ(ซบ.)พระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงทรงสอนครับ ^___^


3.ถ้าถามโดยใช้ตรรกะเดียวกับคุณ Tobebuddhist ผมก็จะถามว่า ทำไม สยามต้องรบกับลาวครับ ทั้งๆที่ นับถือศาสนาเดียวกัน พระพุทธเจ้าคนเดียวกัน และเราก็มักได้ยินวลี classic ว่า "ไทยกับลาว เป็นเมืองพี่ เมืองน้องกัน" ทำไมต้องฆ่าและเผาเมืองด้วย ศีลข้อแรกของศาสนาพุทธสอนว่าไง...เอ่ย
     ปัญหาซุนหนี่-ชีอะฮฺ ส่วนใหญ่ก็การเมืองทั้งนั้นล่ะครับ ถ้าทำตามคำสอนอิสลามอย่างแท้จริง จะไม่มีหรอกครับ ซุนหนี่-ชีอะฮฺ มีแต่ มุสลิม-มุสลิม


4.ถ้าผมถามโดยใช้ตรรกะเดียวกับคุณ ทำไมชาวพุทธในภูมิภาคเอเซีย-ตะวันออกเฉียงใต้ ถึงได้รบกันเองมาตลอดในประวัติศาสตร์ สยามรบพม่า สยามรบลาว สยามรบเวียดนาม สยามรบล้านนา รบกันก่อนที่จะเป็นประเทศไทยซะอีก ^___^
      ปัญหาเรื่อง ยิวกับอาหรับนั้น จะว่าไปมันก็ยาวครับ แต่ส่วนหนึ่งผมมองว่า คำตอบก็คงจะคล้ายๆกับ คำถามว่าทำไม สยามต่อรบกับเพื่อนบ้าน ?


5.ถ้าเป็นปัจจุบัน ไม่มีปัญหาแล้วล่ะครับ และเชื่อหรือไม่ว่า มีมุสลิมในอินเดียมากกว่าคนปากีสถานทั้งประเทศ!!! ตรงนี้แสดงออกถึงความรักและสามัคคีของชาวมุสลิมและชาวฮินดูในอินเดียได้ดีกว่าหนังสือพิมพ์ หรือข่าว ที่ชอบใส่ไข่นะครับ 
       
6.มุสลิมชาวฮั่นก็อยู่ในจีนโดยไม่มีปัญหา และชาวจีนหลายล้านก็เป็นมุสลิม ดังนั้น เห็นไหมครับว่าปัญหาไม่ได้มาจากศาสนา ^___^


7.ชาวคริสต์ก็ประท้วงนะครับ ครบทุกประเทศก็มีการประท้วง ประเทศไทยก็มีการประท้วงโดยชาวพุทธ และการก่อการร้ายโดยชาวคริสต์ ก็มีนะครับ เช่น ไอร์แลนด์เหนือ ชนกลุ่มน้อยบาสก์ ในสเปนและฝรั่งเศษ ทำไมต้องมามองว่า คนก่อการร้ายนับถือศาสนาอะไร? 
       และนิยามของการก่อการร้ายคืออะไรเอ่ย? อเมริกาไปทิ้งระเบิดปรมาณูที่ญี่ปุ่น มีผู้เสียชีวิตอย่างมากมาย ไม่เว้น เด็ก ผู้หญิง คนชรา คนมีครรภ์ แม้แต่ต้นไม้และสัตว์เลี้ยงก็ไม่เหลือ คุณ Tobebuddhist จะเรียกว่านี่คืออะไรครับ? ความชอบธรรม?


8.ถ้าท่านเก่งถึงขนาดรู้ว่าโจรใต้ ที่ฆ่าทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิม เป็นคนนับถือศาสนาอะไร? เชื้อชาติอะไร? ทำไมท่านไม่ไปจับล่ะครับ? ในเมื่อเก่งถึงขนาดระบุได้ขนาดนี้ ไปช่วยทางการดีกว่านะครับ ^___^


9.มาเลเซีย เคยมีประธานาธิบดี เชื้อสายอินเดีย และยังมีคนจีนอยู่กันมากมาย ถ้าพวกเขาขัดแย้งกันจริงๆ เขาจะอยู่มาเลเซียกันทำไม แต่ที่อยู่ร่วมกันเพราะอะไร ก็เพราะเขาไม่ได้มีปัญหากันจริงๆน่ะสิ 


10.-16. ถ้าผมใช้ตรรกะแบบเดียวกันถามคุณ พลพต ผู้นำเขมรแดง ผู้สั่งฆ่าชาวเขมรไป 6 ล้านคน คดีต่างๆตามหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ทุกวัน คนร้ายส่วนใหญ่นับถือศาสนาอะไร นักการเมืองไทยนับถือศาสนาอะไร ตี๋ใหญ่ นับถือศาสนาอะไร บุญเพ็ง หีบเหล็ก นับถือศาสนาอะไร และอีกเยอะแยะมากมาย ถ้าผมใช้ตรรกะเดียวกับคุณ ศาสนาพุทธต้องผิดด้วยไหมครับ อยากรู้จัง >_<


      แต่ในทุกๆคำถาม ก็มีคำตอบที่ Simple ที่สุดว่า "ศาสนานั้นดี แต่คนนั้น..." (ขออภัยที่เซนเซอร์ เพราะมันหยาบครับ >_<) เรื่องต่างๆทั้งหลายในโลกนี้ ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจาก ศาสนา หรือเชื้อชาติ หรือการเมืองอื่นใด เกิดจากกิเลสมนุษย์ทั้งนั้น


ถ้ามีมุสลิมไประเบิด ไปยิงใคร แล้วอิสลามต้องผิดไปด้วย มันก็เหมือนกับตรรกะที่ผมจะยกต่อไปนี้ว่า


"คนเมา ขับรถBMW ไปชนคนตาย แล้วโทษว่า แก๊สโซฮอล ผิด!!!"


แต่ในคลิปนี้โทษ "ซวย"


ปล.กาลามสูตร เห็นคุณ tobebuddhist ชอบยก ได้ใช้บ้างไหมครับ หรือว่าใช้แล้วแต่ได้แค่นี้...เอวัง

วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2554

อัสลามุอะลัยกุม วะเราะหฺมะตุลลอฮฺ วะบารอกะฮฺตุฮฺ

ยินดีต้อนรับทุกท่านที่ใฝ่หาในความจริง

กับ The Muslim Mafia



"In Allah We Trust"

เราจะนำเสนอทุกๆความจริงของอิสลาม


Mafia ในภาษาอาหรับ แปลว่า ผู้ปกป้อง,คุ้มครอง
Mafia ในภาษาอิตาลี แปลว่า สุภาพบุรุษ,คนที่มีเกียรติ

จริงหรือ!!!ที่มีสตรีมุสลิมประกวดนางงาม ถูกรุมปาหินดับอนาถ ซึ่งเป็นการรับโทษประหารชีวิตตามกฎหมายอิสลาม

จากเว็ปโจมตีอิสลามยอดฮิตของศูนย์พิทักษณ์พระพุทธศาสนา ของ ภูวดลแดนไทย
http://surasiha.blogspot.com/2011/06/httpnews.html












ซึ่งทางทีมงานไปพบลิงค์เว็ปนี้ จากศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย



เดลี่เมล์รายงานวันที่ 31 พ.ค. ว่าสาวน้อยชะตาขาดมีชื่อว่า คัตยา โคเร็น วัย 19 ปี ในยูเครนถูกรุมปาหินดับอนาถ ซึ่งเป็นการรับโทษประหารชีวิตตามกฎหมายอิสลาม หลังจากไปประกวดนางงามในเมืองซึ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับกลุ่มมุสลิมสาย เคร่งในหมู่บ้าน
คัตยา โคเร็น ได้ หายตัวไปจากบ้านในแคว้น ครีเมีย หนึ่งสัปดาห์ต่อมามีคนพบร่างที่บอบช้ำถูกฝังอยู่ในป่าใกล้บ้าน โดยตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 3 คน ซึ่งบอกว่าหญิงสาวสมควรตายแล้วตามกฎหมายอิสลาม นายบีฮัล กาเซียฟ อายุ 16 ปี หนึ่งใน ผู้ต้องหาให้การว่า คัตยาละเมิดกฎหมายอิสลาม และไม่เสียใจที่คัตยาตาย
ทั้ง นี้การปาหินเป็นโทษประหารที่ชาวมุสลิมยังเห็นไม่ตรงกันกัน มีทั้งกลุ่มสนับสนุนและคัดค้าน แต่หลายประเทศทั้งอิหร่าน ไนจีเรีย และปากีสถานยังใช้อยู่ ซึ่งอิหร่านมีโทษปาหินสำหรับคดีชู้สาวเท่านั้น โดยมีผู้หญิงอย่างน้อย 10 คน และผู้ชาย 4 คน ที่จะต้องรับโทษภายในสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ตามประชาคมโลกเริ่มให้ความสนใจและต่อต้านโทษประหารด้วยการปาหิน
 http://news.sanook.com


แต่ความจริงแล้ว เรื่องนี้เป็นดังนี้ครับ


สำนักข่าวมุสลิมไทย 
สื่อเทศออกมายอมรับ นั่งเทียนเขียนข่าว กรณีสาวมุสลิมโดนขว้างหินจนตาย
(ข่าวที่เคยนำเสนอก่อนหน้านี้)
สื่อออกมาแก้ข่าว และแสดงความไม่แน่ใจต่อกรณี คัตญ่า โคเรน สาวมุสลิมชาวยูเครน ซึ่ง ได้เข้าร่วมประกวดความงาม และถูกสังหารชีวิต ซึ่งสื่อรีบออกข่าวว่ามีผู้ไม่พอใจที่เธอฝ่าฝืนหลักการอิสลามจนนำไปสู่การถูกสังหารด้วยก้อนหิน
เซอร์เจีย เรซนิคอฟ ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องในการสอบสวน ออกมากล่าวกับสื่อเทเลกร๊าฟว่า ผู้ สังหารเธอเป็นเพื่อนนักเรียนด้วยกัน และยังไม่พบเหตุจูงใจที่เกี่ยวกับศาสนา หรือความขัดแย้งระหว่างชนกลุ่มน้อย และในพื้นที่ระหว่างไครเมียกับยูเครน ไม่เคยมีเหตุขัดแย้งจากเรื่องดังกล่าวตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน
จากข้อสันนิษฐานใหม่ ผู้สังหารคัตญ่าเป็นเพื่อนนักเรียนที่อาจหลงรักเธอ และถูกเธอแสดงความไม่สนใจ บิฮาล กาซีฟ ผู้ต้องสงสัยที่สารภาพว่าเป็นผู้สังหารเธอเพราะต้องการลงโทษ มีประวัติว่าเป็นคนไม่เต็มเต็ง และขณะนี้ตำรวจกำลังดำเนินการตรวจร่างกายของกาซีฟอย่างละเอียด


ที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวไม่มีความขัดแย้งในเรื่องการลงโทษตามแบบชาริอะฮฺ
อนึ่งมีข่าวจากเว็ปไซต์ www.sundayszaman.com ซึ่งออกมาโต้สื่อเดลี่ เมล์ ของอังกฤษ ว่าด่วนลงข่าวโดยยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่แน่ชัด และว่าสื่อตะวันตกมีอคติต่ออิสลาม
ซึ่งทางการยูเครนกล่าวกับสำนักข่าว Cihan ว่า รายงานที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ และเว็ปไซต์ข่าวหลายแห่งเป็นเรื่องที่กุขึ้น และว่าหญิงที่ถูกสังหารไม่ได้เป็นมุสลิม แต่เป็นชาวคริสต์เชื้อสายรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ทางการไครเมียกล่าวว่า คำให้การของผู้ต้องสงสัยยังมีความสับสน โดยในบันทึกคำให้การที่ทำต่อหน้าครู และทนายความ กาซีฟกล่าวว่า เขาช่วยคัตญ่าหาสิ่งของบางอย่างในป่า และได้สังหารเธอที่นั่น แต่ภายหลังกาซีฟได้ปฏิเสธคำให้การดังกล่าว


มุสตาฟา เซมิโลกลู ประธานมัจลิส ประชาชนชาวตาต้าร์ไครเมียน (Mejlis of the Crimean Tatar People) ออกมากล่าวว่า บิลาล กาซิเยฟ ผู้ต้องสงสัยสังหารคัตญ่าเป็นชาวไครเมียเชื้อสายตาต้าร์ เขาถูกตำรวจกดดันให้สารภาพว่าเป็นผู้สังหาร และสื่อบิดเบือนแรงจูงใจในการสังหารให้เกี่ยวข้องกับเรื่องของศาสนา เขาย้ำว่าคัตญ่าไม่ได้เป็นมุสลิม และรายงานข่าวทางสื่อเป็นเรื่องที่กุขึ้นทั้งสิ้น  - www.muslimthai.com